Biten Chocolate Barrsors-4u.net/cursor.png'

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560

เดินทางมาถึงไทยแล้ว! LG G6 สมาร์ทโฟนหน้าจอเต็มอิ่ม เปิดขายพร้อมโปรเด็ด แถมทีวี 43 นิ้ว

เดินทางมาถึงไทยแล้ว! LG G6 สมาร์ทโฟนหน้าจอเต็มอิ่ม เปิดขายพร้อมโปรเด็ด แถมทีวี 43 นิ้ว

กลับมาให้หายคิดถึงกันแล้วสำหรับการจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงจาก LG ในไทย โดยล่าสุด ทาง LG (ประเทศไทย) ได้นำสมาร์ทโฟน LG G6 รุ่นล่าสุดที่ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มาสู่อ้อมกอดของสาวก LG ชาวไทยอีกครั้ง
เดินทางมาถึงไทยแล้ว! LG G6 สมาร์ทโฟนหน้าจอเต็มอิ่ม เปิดขายพร้อมโปรเด็ด แถมทีวี 43 นิ้ว
LG G6 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธง หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ FullVision ที่หน้าจอขยายแทบจะเต็มตัวเครื่อง (ขอบบาง) ที่มีอัตราส่วนหน้าจอกว้างถึง 18:9 จอภาพแสดงผลที่ความละเอียด QHD+ รวมทั้งยังรองรับเทคโนโลยีภาพ Dolby Vision และ HDR10 อีกด้วย ส่วนกล้องหลังมาพร้อมกล้องคู่ 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเลนส์กว้างถึง 125 องศา ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ และกล้องหน้าก็กว้างไม่น้อยหน้า ซึ่งมีความกว้างถึง 100 องศาเก็บฉากหลังสวยๆ ได้อย่างเต็มที่

ด้านดีไซน์นอกจากหน้าจอเต็มอิ่มขอบบางสวยแล้ว ตัวเครื่องยังใช้วัสดุในการผลิตเป็นโลหะ พร้อมกระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและหลัง ทนต่อแรงกระแทก กันฝุ่นและกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที
เดินทางมาถึงไทยแล้ว! LG G6 สมาร์ทโฟนหน้าจอเต็มอิ่ม เปิดขายพร้อมโปรเด็ด แถมทีวี 43 นิ้ว
โดย LG G6 ในประเทศไทย จะถูกจำหน่ายด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีแอสโตร แบล็ก (สีดำ) และสีไอซ์ แพลตินั่ม (สีเงิน) ในราคา 24,990 บาท ณ เอไอเอส ช้อป ที่เข้าร่วมรายการ และ เอไอเอส ออนไลน์ สโตร์ พร้อมโปรพิเศษ แถม LED TV ขนาด 43 นิ้ว รุ่น 43LJ500T มูลค่า 13,900 บาทอีกด้วย (สินค้ามีจำนวนจำกัด) นอกจากนี้ ลูกค้า AIS ยังมีสิทธิ์รับ AIS HOT DEAL เป็นข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 4,000 บาทอีกด้วย

สเปคสมาร์ทโฟน LG G6

  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon™ 821
  • จอภาพ : QHD+ IPS Display ขนาด 5.7 นิ้ว
  • หน่วยความจำ : RAM 4GB / ROM 64GB
  • กล้อง
    กล้องหลัง : เลนส์คู่ 13 ล้านพิกเซล F1.8 ถ่ายมุมกว้างได้ 125 องศา
    กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 100 องศา
  • แบตเตอรี่ : 3,300 mAh
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Smart Dual SIM)
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 7.0 Nougat
  • ขนาด : 148.9 x 71.9 x 7.9 มิลลิเมตร

วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

สบายใจได้! Gran Turismo Sport เกมส์ภาคล่าสุดนี้ จะไม่มีระบบตอดเงินผู้เล่นเพิ่มในเกมส์!

สบายใจได้! Gran Turismo Sport เกมส์ภาคล่าสุดนี้ จะไม่มีระบบตอดเงินผู้เล่นเพิ่มในเกมส์!
Microtransactions หรือ ระบบตอดเงินผู้เล่น (ผู้เขียนนิยามเองคำนี้ 555) โมเดลการตลาดของเกมส์ในยุคปัจจุบันที่กำไรได้มหาศาล โดยเป็นการนำเสนอทางเลือกในการเล่น เป็นเครื่องมือช่วยร่นระยะเวลา หรือให้การเล่นสบายและง่ายขึ้น เป็นต้น ซึ่ง Gran Turismo ซีรีย์เกมส์ขับรถระบบบังคับเสมือนจริงอันเป็นเกมส์คู่บุญเครื่องเล่น PlayStation ตลอดมานี้ ในภาค 6 ที่ลงให้ยังเครื่องเล่น PlayStation 3 นั้น ตัวเกมส์ก็เคยมีระบบที่ว่ามาและมันได้ส่งผลให้แฟนๆ จำนวนไม่น้อย หน้าบูดหน้าบึ้งและไม่พอใจถึงความโลภมากของผู้พัฒนา/จัดจำหน่าย (ซื้อเกมส์มาแล้วยังจะต้องจ่ายอะไรเสริมอีกหรอ?)
ซึ่งก็ดูเหมือนทีมพัฒนาของเกมส์จะเจ็บปวดกับคำสาปแช่งของแฟนๆ ไปพอสมควร ทำให้ในภาคล่าสุดอย่าง Gran Turismo Sport นี้ นาย Kazunori Yamauchi ผู้บริหารของค่ายพัฒเกมส์ดังกล่าว ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า "จะไม่มีระบบตอดเล็กตอดน้อยที่ว่ามานี้อย่างแน่นอน" 
ก่อนหน้านี้ในภาคที่ 6 ของซีรีย์ ตัวเกมส์ได้มีระบบ Microtransaction ที่แม้จะเป็นเพียงตัวเลือกเสริมในการเล่นก็ตาม แต่แฟนๆ ก็ได้พบว่าระบบดังกล่าว สร้างความไม่สมดุลในโหมดการเล่นแข่งขันในเกมส์ และมันคือความผิดร้ายแรงที่พวกเขายังคงจดจำมาถึงทุกวันนี้

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

โอกาสทำเงินของแฮกเกอร์สายขาวมาแล้ว เมื่อ DJI เสนอเงินรางวัลเฉียดล้านให้คนที่พบช่องโหว่

โอกาสทำเงินของแฮกเกอร์สายขาวมาแล้ว เมื่อ DJI เสนอเงินรางวัลเฉียดล้านให้คนที่พบช่องโหว่
DJI เสนอเงินรางวัลให้กับใครก็ตามที่พบบั๊กในระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้งานร่วมกับโดรน โดยแคมเปญนี้นำเสนอเงินรางวัล $100 - $30,000 (ประมาณ 3,300 - 996,600 บาท) ให้กับแฮกเกอร์สายขาว นักวิจัยทางด้านความปลอดภัย หรือใครก็ตามที่ค้นพบปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของซอฟต์แวร์, บั๊กที่กระทบกับความปลอดภัยทางการบิน และบั๊กที่กระทบกระเทือนความมีเสถียรภาพของแอพฯ ซึ่งการที่ DJI เปิดแคมเปญล่าบั๊กนี้ น่าจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากข่าวที่มีบันทึกภายในของหน่วยงานทหารสหรัฐอเมริกาหลุดรอดออกมาว่า จะมีการหยุดใช้โดรนของ DJI เพราะว่ามีช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัยข้อมูล
และทาง DJI จะเปิดเว็บไซต์สำหรับการรายงานช่องโหว่ภายในระยะเวลาเร็วๆ นี้ แต่ช่วงที่เว็บไซต์รายงานบั๊กยังไม่เปิดให้บริการนั้น แฮกเกอร์สายขาวหรือใครก็ตามที่พบบั๊ก สามารถส่งรายละเอียดไปได้ที่อีเมล์ bugbounty@dji.com และบั๊กที่ได้รับการพิสูจน์จากทีมงานแล้วว่าเป็นของจริง ถึงจะได้รับเงินรางวัลเป็นสิ่งตอบแทน

เป็นเรื่อง เมื่อแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Instagram เพื่อล็อคอินเข้าถึงบัญชีซุปตาร์ได้ในที่สุด

บั๊กในแอพฯ Instagram เปิดช่องให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง หมายเลขโทรศัพท์ และรายชื่ออีเมล์ที่เก็บอยู่ในเครื่องได้เลย โดยทาง Instagram ออกมาให้ข้อมูลว่า มีการตรวจพบบั๊กในส่วนของ Application Programming Interface (API) ซึ่งเป็นส่วนที่เอาไว้ติดต่อสื่อสารกับแอพฯ ตัวอื่นๆ แต่ทาง Instagram ก็ไม่ได้เผยรายละเอียดว่าใครเป็นผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ โดยข่าวนี้ออกมาใน 2 วัน หลังจากการที่มีแฮกเกอร์รายหนึ่งสามารถเข้าถึงบัญชี Instagram ของซุปเปอร์สตาร์อย่าง Selena Gomez แล้วก็จัดการโพสต์ภาพนู้ดของ Justin Bieber ซึ่งเป็นแฟนเก่าของเธอ
เป็นเรื่อง เมื่อแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Instagram เพื่อล็อคอินเข้าถึงบัญชีซุปตาร์ได้ในที่สุด
Selena Gomez นักร้องและนักแสดงสาวชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ทาง Instagram ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า มีการตรวจพบว่ามีคน หรือกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ได้ทำการเข้าถึงแอคเคาท์ของซุปเปอร์สตาร์อย่างไม่ถูกต้อง แล้วใช้ช่องโหว่ของแอพฯ เพื่อเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อ โดยเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ และรายชื่ออีเมล์ที่มีเก็บอยู่ในเครื่อง แต่อย่างไรก็ดี แฮกเกอร์ไม่สามารถเจาะรหัสผ่านของระบบได้โดยตรง และทาง Instagram ได้ทำการอุดช่องโหว่นี้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทาง Instagram ได้ทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งานแอคเคาท์ Instagram แบบ Verified ทุกคน ถึงความเสี่ยงที่ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อของพวกเขาจะเกิดการรั่วไหล และเตือนให้พวกเขาระมัดระวังในกรณีที่ได้รับการติดต่อมาจากหมายเลขโทรศัพท์แปลกๆ รวมถึงข้อความ และอีเมล์ที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งการที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง หมายเลขโทรศัพท์ และรายชื่ออีเมล์ พวกเขาก็สามารถนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ มาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างการล่อล่วง จนสามารถควบคุมแอคเคาท์ Instagram ของบุคคลเป้าหมายได้ในที่สุด
โดยบัญชี Instagram ของ Selena Gomez ได้ถูกระงับการใช้งานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงบัญชีของเธอได้ และทำการโพสต์ภาพนู้ดของ Justin Bieber ซึ่งเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ไปในปี 2015 และในตอนนี้ปัญหาก็ถูกแก้ไขเรียบร้อย และแอคเคาท์ของ Selena Gomez ก็กลับมาใช้งานได้ตามเดิม

นี่อาจเป็นงานเพียงไม่กี่อย่างในโลกใบนี้ ที่ได้ใช้ความแรงของซูเปอร์คาร์อย่างคุ้มค่า!

ใครที่คิดว่าซุปเปอร์คาร์ หรือรถสปอร์ตเครื่องแรง ไม่ได้มีประโยชน์ใช้สอยอะไรนอกจากความแรงและความสนุกสะใจ เห็นที่ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่เมื่อได้อ่านข่าวนี้
เป็นเวลานานมาแล้ว ที่กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้ใช้รถสปอร์ตเครื่องแรง เพื่อช่วยให้นักบินของเครื่องบินสายลับ Lockheed Martin U-2 ให้ทำการลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเครื่องบินแบบนี้เริ่มมีการใช้งานครั้งแรกในช่วงต้นของยุคสงครามเย็น ด้วยรูปทรงของเครื่องบินสายลับ U-2 ที่มีความพิเศษกว่าเครื่องบินอื่นๆ ทำให้การนำมันลงจอดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ทำให้มันได้รับฉายาว่า Dragon Lady และกองทัพอากาศต้องใช้วิธีการอันสุดแสนจะพิเศษในการนำมันลงจอด
โดยในคลิปการลงจอดของเครื่องบิน U-2 ที่อยู่ทางด้านบน กองทัพอากาศได้ใช้รถสปอร์ตเครื่องแรงอย่าง Pontiac GTO เพื่อวิ่งไล่ตามเครื่องบิน U-2 ที่กำลังจะลงจอดบนรันเวย์ โดยในรถคันนั้นขับโดยนักบินอีกคนที่มากประสบการณ์ และการที่ต้องขับรถไล่ตามในขณะที่กำลังลงจอดนี้ เพื่อที่จะสังเกตอาการของตัวเครื่องอย่างใกล้ชิด และแจ้งสภาพการลงจอดไปยังนักบินตัวจริงที่อยู่บนเครื่อง U-2
นี่อาจเป็นงานเพียงไม่กี่อย่างในโลกใบนี้ ที่ได้ใช้ความแรงของซูเปอร์คาร์อย่างคุ้มค่า!
Lockheed Martin U-2 เครื่องบินสายลับ ที่ต้องหลบเร้นที่ระดับความสูงมากๆ ทำให้รูปทรงปีกกว้างคล้ายเครื่องร่อน ซึ่งเป็นอุปสรรคทั้งสำหรับการบินขึ้น และลงจอด
การนำเครื่อง U-2 ที่มีดีไซน์เครื่องแบบแปลกเฉพาะตัว บินขึ้นจากสนามบิน ก็มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันพอสมควร แต่การเอามันลงจอดเป็นขั้นตอนที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่รูปทรงปีกของ U-2 นั้นมีความกว้างมากคล้ายกับเครื่องร่อน เพื่อการบินได้อย่างมีเสถียรภาพที่ระดับเพดานบินสูงเป็นพิเศษ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับด้วยระบบเรดาร์ของข้าศึก และด้วยคุณสมบัติของปีกที่มีความกว้างมากๆ นี้ ทำให้ปีกสร้างแรงยกได้สูงมาก ซึ่งเป็นปัญหากับการลงจอด ทำให้นักบินต้องทำการลดความเร็วลงจะถึงระดับที่ เครื่องจะเกิดอาการปักหัวดิ่งลงพื้น (Stall) ซึ่งต้องทำเมื่อเครื่องอยู่ที่ระดับความสูง 2-3 ฟุตเหนือรันเวย์ ซึ่งเป็นงานที่ละเอียดมาก ทำให้ต้องมีนักบินผู้มีประสบการณ์อีกคน นั่งมาในรถสปอร์ตเครื่องแรง และขับตามเครื่องบินในระยะประชิด เพื่อรายงานสภาพการณ์ของเครื่องอย่างใกล้ชิด และแถม U-2 ยังมีความอ่อนไหวกับกระแสลมพัดขวางแนวการร่อนลงจอดอีกด้วย 
โดยกองทัพอากาศของอเมริกา ได้เลือกใช้งานรถสปอร์ตสัญชาติอเมริกันหลายรุ่นเพื่องานนี้ อาทิ Pontiac GTO รุ่นล่าสุด รวมถึง Ford Mustang, Chevrolet Camaro และ Pontiac G8 และยังเคยมีการพบเห็นว่า ฐานทัพอังกฤษ มีการใช้รถพลังงานไฟฟ้าอย่าง Tesla Model S ในการเฝ้าติดตาม U-2 ในขณะที่บินขึ้นจากรันเวย์ด้วย และเครื่องบิน U-2 ก็เข้าประจำการมาเป็นเวลาร่วม 60 ปีแล้ว เรียกว่ามันได้รับการช่วยเหลือจากรถสปอร์ตมาแล้วหลายรุ่น ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน และคาดว่าในอนาคต รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประสิทธิภาพแรงพอ จะเข้ามารับบทบาทตรงนี้

ที่มา : https://news.thaiware.com/11204.html

Apple ประกาศวันเปิดตัวของเล่นใหม่อย่างเป็นทางการ

หลังจากลืมกันมาอย่างยาวนาน อีกไม่กี่วันเราก็จะได้รู้แล้วว่าสิ่งที่ลือมานั้นจะแม่นยำขนาดไหน เพราะ Apple ได้อัพเดทหน้าเว็บไซต์เผยกำหนดการของงานเปิดตัว "ของเล่นใหม่" ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยงานจะจัดขึ้นวันที่ 12 กันยายน ที่ Steve Jobs Theater ใน Apple Park เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 a.m. ซึ่งจะตรงกับเวลาเที่ยงคืน 0.00 a.m. ของวันที่ 13 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับในงานนี้ คาดกันว่าเราจะได้เห็นสินค้าใหม่อย่าง iPhone 8, iPhone 7s, iPhone SE2, Apple Watch 3 และ Apple TV 4K ในส่วนของซอฟต์แวร์ก็น่าจะมาครบทั้ง iOS 11, macOS High Sierra, watchOS 4 และ tvOS 11 ที่ได้มีสาธิตไปบ้างแล้วในงาน WWDC 2017 ที่ผ่านมา
ก็อดใจรอกันอีกเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ เราก็จะได้เห็นกันแล้ว ว่าไอโฟนรุ่นใหม่จะน่าสนใจขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าไทยแวร์จะมาอัพเดทข้อมูลกันให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันอย่างแน่นอนเหมือนเช่นเคย

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Improve your Wi-Fi เพิ่มความแรงของ Wi-Fi ภายในบ้าน!

Improve your Wi-Fi เพิ่มความแรงของ Wi-Fi ภายในบ้าน!
หลายคนคงเคยประสบปัญหา Wi-Fi ที่ใช้งานอยู่ทำไมช้าจัง ทำให้เกิดความสงสัยข้องใจว่าสัญญาณที่ส่งมาไม่ดี หรือ Router ของเราจะมีปัญหา เรามาดูปัจจัยแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการส่งสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ
เหตุผลและปัจจัยที่ทำให้สัญญาณ Wi-Fi ในบ้านช้าลง และเราควรทำอย่างไร
1. เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 
ไมโครเวฟมีผลอย่างยิ่ง มันคือกล่องเหล็กที่เมื่อเปิดใช้งาน จะมีคลื่นไมโครเวฟพลังงานสูงแถวๆ 2.4 GHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่เดียวกับ Wi-Fi มันสร้างหลุมดำรอบๆ ตัวเครื่อง ทำให้สัญญาณไม่สามารถผ่านได้ รวมถึง เตาอบ ช่องแช่แข็ง เครื่องล้างจาน ฯลฯ อะไรก็ตามที่เป็นเหล็กและมีท่อน้ำอยู่ข้างใน มันจะลดคุณภาพสัญญาณ Wi-Fi ของท่าน
2. โทรศัพท์ไร้สาย โทรทัศน์ ลำโพง
โดยส่วนมากแล้วเรามักจะวาง Router ไว้ใกล้กับโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าเครื่องสองอย่างนี้ทำงานอยู่ในคลื่นความถี่เดียวกัน มันอาจทำให้สัญญาณเดินทางได้ช้าลง เช่นเดียวกับโทรทัศน์ หากวางตรงกับ Router มันจะส่งผลลบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง เช่นเดียวกับลำโพงที่เป็นแม่เหล็กไฟฟ้า
3. การวางท่อและฉนวน
สำหรับข้อนี้ถือว่ายากที่จะหลีกเลี่ยง ท่อที่มีน้ำอยู่ภายในจะดูดซับและลดประสิทธิภาพสัญญาณ ส่วนฉนวนนั้นช่วยป้องกันห้องจากสิ่งต่างๆ ภายนอก รวมถึงสัญญาณ Wi-Fi
4. Router ของเพื่อนบ้าน
ปัจจัยนี้ขึ้นอยู่กับว่ามันตั้งอยู่ใกล้กันแค่ไหน มันอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยตรง สำหรับเรื่องนี้อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าสำหรับคนที่อยู่อพาร์ตเม้นต์ เพราะต้องเจอกับสัญญาณต่างๆ รอบด้าน
5. มนุษย์
ใช่แล้ว! คุณคือปัญหาเช่นกัน! มนุษย์นั้นก็เป็นตัวดูดสัญญาณ Wi-Fi อย่างหนึ่ง แต่ปัญหานี้ไม่ต้องไปให้ความสำคัญมาก 
6. วาง Router ไว้ที่กลางบ้าน
Router จะส่งสัญญาณออกไปในทุกทิศทาง มันจึงสมเหตุสมผลที่จะวาง Router ไว้ที่กลางบ้าน โชคไม่ดีนักที่มันเราอาจทำได้ไม่เต็มที่นักเพราะเรื่องสายเคเบิ้ล
7. ลงทุนกับ Router ใหม่
ปัจจุบันเครื่องรุ่นใหม่โดยทั่วไปจะมีสัญญาณ และความเร็วที่ดีกว่ารุ่นเก่าอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีกำลังแรงทรัพย์ก็ลงทุนไปไว้ใช้ระยะยาวถือว่าคุ้ม

ที่มา : www.pandaavshop.com